21 ก.ค. 2566ยาว 1 นาที

หลังศัลยกรรมกี่วันถึงกินอาหารเสริมได้?

อัปเดตเมื่อ 11 ส.ค. 2566

หลังศัลยกรรมกี่วันถึงกินอาหารเสริมได้? เป็นคำถามที่ใครหลายคนอยากรู้!! ซึ่งอย่างที่เราทราบกันดีว่าการดูแลตัวเองด้วยการกินอาหารที่ดี ออกกำลังกาย หรือบำรุงผิวพรรณด้วยครีมต่าง ๆ จากภายนอก อาจจะไม่เพียงพออีกต่อไป ดังนั้น คนส่วนใหญ่จึงหันมาดูแลตัวเองด้วยการกินอาหารเสริมที่ถูกนับว่าเป็นการบำรุงจากภายใน และทดแทนสารอาหารที่ร่างกายไม่มีหรือมีไม่เพียงพอนั่นเองค่ะ

ใครที่ไปทำศัลยกรรมมาแล้ว แต่ว่าไม่มั่นใจว่าสามารถกินอาหารเสริมได้เลยไหม หรือไม่รู้เลยว่าหลังศัลยกรรมกี่วันถึงกินอาหารเสริมได้ มาหาคำตอบได้ในบทความนี้ไปกับ Oppa Me ได้เลยค่ะ!

หลังศัลยกรรมกี่วันถึงกินอาหารเสริมได้?

หลังจากที่ทำศัลยกรรมมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการศัลยกรรมจมูก, ศัลยกรรมคาง, ศัลยกรรมหน้าผาก, ดูดไขมัน, เติมไขมัน, ผ่าตัดหนังหน้าท้อง, เสริมหน้าอก ฯลฯ ควรงดรับประทานอาหารเสริมอย่างน้อย 3 สัปดาห์ - 1 เดือนค่ะ โดยเฉพาะกับอาหารเสริมหรือวิตามินที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด ไม่อย่างนั้น อาจจะทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนตามมาได้ รวมถึงเกิดผลกระทบต่อการพักฟื้นของร่างกายนั่นเอง ซึ่งอาจทำให้แผลหายบวมช้ำช้า หรือดูบวมช้ำมากกว่าปกติค่ะ

อาหารเสริมที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือดมีอะไรบ้าง?

คอลลาเจน (Collagen)
ยาแอสไพริน (Aspirin)
วิตามินอี (Vitamin E)
สารสกัดจากเมล็ดองุ่น (Grape Seed Extract)
น้ำมันปลา (Fish Oil)
ถั่งเช่า (Cordyceps)
แปะก๊วย (Ginkgo)
สารสกัดจากขมิ้น ขิง กระเทียม

ทำไมต้องงดอาหารเสริมด้วยล่ะ?

เนื่องจากอาหารเสริมนั้นมีมากมายหลายชนิด ทั้งทำมาจากวิตามินต่าง ๆ สมุนไพรที่หลากหลาย และรวมไปถึงตัวยาที่มีอยู่มากมาย ทำให้เราไม่สามารถทราบได้อย่างแน่ชัดว่าส่วนประกอบในอาหารเสริมที่คนไข้ทาอยู่มันมีอะไรบ้าง อีกทั้งคนไข้บางคนยังมีการรับประทานอาหารเสริมหลาย ๆ ตัวอีกด้วย

เหตุผลที่แพทย์ให้งดอาหารเสริมหลังผ่าตัดนั้น เป็นเพราะว่าอาหารเสริม ยา และวิตามินบางตัว จะทำให้เลือดไหลออกมากว่าเดิม แผลที่กำลังจะสมานก็ใช้ระยะเวลาในการฟื้นฟูนานขึ้นไปอีก เพื่อไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ แพทย์จึงแนะนำให้งดอาหารเสริมนั่นเองค่ะ

ทั้งนี้ แนะนำให้นำอาหารเสริมที่ทานประจำ หรือคิดว่ากำลังจะทาน ไปให้แพทย์ช่วยตรวจสอบให้อีกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าอาหารเสริมชนิดไหนทานได้ และอาหารเสริมชนิดไหนไม่ควรทานค่ะ

แนะนำว่าหลังจากศัลยกรรมมาให้เลือกทานอาหารที่มีส่วนช่วยให้อาการบวมช้ำลดลงเร็วขึ้นจะดีกว่า เช่น น้ำหรือซุปฟักทอง หรือถ้าวิถีแบบไทย ๆ ก็ดื่มน้ำใบบัวบกก็ช่วยได้นะคะ