ผ่าตัดโครงหน้า เป็นการศัลยกรรมที่เรียกได้ว่าเนรมิตหน้าใหม่ให้กับคนไข้เลยก็ว่าได้ อีกหนึ่งเคสสุดปังที่ Ministry of Beauty เอามาฝากในวันนี้เป็นการผ่าตัดแก้ไขโครงหน้าโดยใช้เทคนิคมินิวีไลน์ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ตามไปชมภาพการเปลี่ยนแปลงได้เลย…
เหตุผลที่เลือกโรงพยาบาลอียู
เป็นคนคางสั้น ทำให้ใบหน้าดูกลม จริง ๆ แล้วไม่ได้มีปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวันเลยค่ะ เพียงแค่อยากได้ใบหน้าที่เรียวสวย ได้รูป พร้อมคางที่ยาวขึ้น ก่อนทำการผ่าตัด ได้สอบถามเพื่อน ๆ บวกกับดูรีวิวต่าง ๆ จากหลายโรงพยาบาล พร้อมหาข้อมูลต่างทางอินเทอร์เน็ต จึงได้ทราบว่าคุณหมอคิมจงยุน เป็นศัลยแพทย์จาก let me in season 1 ที่มีชื่อเสียงมากด้านศัลยกรรมโครงหน้า ทำให้มีความตั้งใจแน่วแน่ว่า ต้องศัลยกรรมโครงหน้ากับคุณหมอ คิมจงยุนเท่านั้นประกอบกับมีเพื่อนที่เคยทำการผ่าตัด V line มาก่อน ซึ่งตอนนี้มีใบหน้าที่เรียวสวยมาก ตอนแรกก็ไม่ทราบว่าทำมาจากที่ไหน เมื่อสอบถาม เพื่อนจึงแนะนำโรงพยาบาลอียูมาให้ จากนั้นจึงตามเข้ามาดูรีวิวในเพจและ ig ทำให้ได้ทราบว่า โรงพยาบาล EU นั้น เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านขากรรไกร คุณหมอของที่นี่ล้วนมีประสบการณ์และความชำนาญอย่างสูง จึงได้ตัดสินใจเข้ามาปรึกษากับคุณหมอคิมจงยุน โดยการทำศัลยกรรม mini V line ค่ะ
วันที่ 1 ก่อนผ่าตัดกังวลและกลัวมากค่ะ เพราะไม่เคยทำการผ่าตัดศัลยกรรมใด ๆ มาก่อน ที่กลัวมาก ๆ เลย คือ ตอนตื่นจากยาสลบคิดว่าต้องเจ็บมากแน่ ๆ แต่ตรงกันข้ามเลยค่ะ ไม่รู้สึกเจ็บแต่อย่างใด มีอาการปวดตุบ ๆ เล็กน้อย เวลาที่เราพยายามพูดหรือขยับปาก แต่ที่เห็นได้ชัดเลยคืออาการเจ็บคอ บวกกับมีเสมหะพร้อมลิ่มเลือด ออกมาจากคอและจมูก ทำให้หายใจลำบากมากค่ะ
วันที่ 2 ตื่นเช้ามารู้สึกได้ว่าหน้าบวมขึ้นมาก จึงใช้การประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการบวม มีการปวดเล็กน้อย แต่หลังจากได้ทานอาหารอ่อนและทานยาตาม ก็รู้สึกดีขึ้นมาก ตอนนี้ยังคงมีเสมหะเป็นลิ่มเลือดอยู่ค่ะ
วันที่ 3 บวมลดลงจากเมื่อวาน ยังคงเจ็บคอและมีเสมหะอยู่ แต่เลือดที่ปนมากับเสมหะน้อยลงแล้ว อาการที่เพิ่มมาคือท้องเสีย แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะช่วงก่อนประจำเดือนจะมาหรือเปล่า
วันที่ 4 ใบหน้ายังบวมเหมือนเดิมค่ะ รู้สึกเจ็บคอ บวกกับมีเสมหะและลิ่มเลือดเล็กน้อย ยังท้องเสียอยู่แต่น้อยลง มีอาการเจ็บแผลในช่องปากนิดหน่อย
วันที่5 ใบหน้าโดยรวมบวมน้อยลงแล้ว แต่ยังคงเจ็บคอและมีเสมหะอยู่ เวลานอนไม่มีปัญหาเรื่องการหายใจค่ะ
วันที่ 6 บวมน้อยลงมากค่ะ แต่ยังคงเจ็บคอและมีเสมหะอยู่ มีอาการแสบแผลด้านในปากนิดหน่อย ยังคงหลับสบายดีเหมือนเดิม แต่มีอาการเมื่อยเล็กน้อย เพราะต้องนอนท่าเดิมตลอดคืน
วันที่ 7 อาการดีขึ้นเรื่อย ๆ มีเสมหะแต่ไม่มีเลือดปนมาแล้ว ไม่มีปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวันเลยค่ะ สามารถออกไปดื่มกาแฟด้านนอกได้สบาย ๆ
วันที่ 8 วันนี้คุณหมอนัดล้างแผล พร้อมทั้งทำเลเซอร์ลดบวม ใบหน้าที่บวมลดลงมากแล้ว
วันที่ 11 ใบหน้าเริ่มชาน้อยลงค่ะ มีความรู้สึกเจ็บจี๊ด ๆ เป็นบางที แต่ไม่มาก รู้สึกเจ็บแผลที่เย็บในปากมากกว่า วันนี้เป็นวันแรกที่ลองแต่งหน้าหลังจากผ่าตัดมา เริ่มเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของโครงหน้าแล้วค่ะ
วันที่15 วันนี้ดีใจมาก เพราะได้ตัดไหมแล้ว รู้สึกโล่งเลยค่ะ วันนี้เป็นวันแรกที่เริ่มเคี้ยวอาหารนิ่ม ๆ ได้ หลังจากที่ทานไม่ได้มา 2 สัปดาห์ มื้อแรกที่ทานเป็นอาหารเวียดนามค่ะ
วันที่ 19 ตื่นมารู้สึกเจ็บที่คางค่ะ ความรู้สึกเริ่มกลับมาแล้ว ชาแค่บริเวณปลายคางเล็กน้อย และความบวมยังคงมีอยู่ เวลาขยับปากรู้สึกตึง ๆ ตรงปลายคางกับแผลที่เย็บในปากค ส่วนอาหารทานได้ถนัดขึ้น จึงเริ่มทานได้มากขึ้น
วันที่ 20 วันนี้อากาศร้อนมากค่ะ แต่ก็มีลมพัดเย็นสบาย จึงแต่งตัวออกไปเที่ยว เวลาถ่ายรูปเห็นความเปลี่ยนแปลงของโครงหน้าชัดขึ้นเรื่อย ๆ ใบหน้าดูหวานมากขึ้น
วันที่ 28 วันนี้อากาศดีมากค่ะ เย็นสบายแถมแดดไม่แรง วันหยุดสุดสัปดาห์ที่อากาศดีแบบนี้ จะนอนอยู่บ้านเฉย ๆ ก็น่าเสียดาย วันนี้จึงเลือกที่จะออกไปเดินเล่นใกล้ ๆบ้าน ระหว่างทางก็ฝึกบริหารขยับปากไปพลาง ๆ ด้วย
1 เดือน วันนี้ครบ 1 เดือนแล้วค่ะ ใบหน้ายังไม่เข้าที่ซะทีเดียว ยังคงมีอาการบวมและชาบริเวณปลายคางอยู่นิดหน่อย เวลาอ้าปากหรือเคี้ยวจะรู้สึกเจ็บบริเวณกรามด้านซ้าย ตอนนี้เวลาฝึกอ้าปากต้องค่อย ๆ ทำค่ะ ส่วนอาหารช่วงนี้จะทานปลาบ่อยมากขึ้น เพราะเนื้อปลาเคี้ยวง่ายที่สุด
วันที่ 41 ตอนนี้ไม่มีอาการเจ็บกรามแล้วค่ะ แค่ชาตรงปลายคางด้านซ้ายนิดหน่อย เวลายิ้มปากไม่เบี้ยว บวกกับมุมปากสองข้างเท่ากันแล้ว รู้สึกดีมาก ๆ เลยค่ะ ตอนนี้ไม่ว่าจะยิ้มหรือถ่ายรูป มีความมั่นใจมากขึ้นกว่าเดิม
วันที่ 58 หน้าที่เป็นคลื่นลดลงค่ะ ช่วงกรามและคางยังคงดูเป็นคลื่นอยู่ ตอนนี้เคี้ยวอาหารได้ปกติ แต่ยังต้องฝึกบริหารขยับปากทุกวันค่ะ
วันที่ 64 หลังจากที่ได้พบคุณหมอในวัน check up ครบ 2 เดือน ก็รู้สึกสบายใจขึ้น เชื่อมั่นในฝีมือคุณหมอว่าต้องทำให้เราสวยแน่นอน เพียงแค่รอเวลาให้ใบหน้าเข้าที่เข้าทางมากกว่านี้
เดือนที่ 4 เวลาผ่านไปเร็วมาก ๆ เลยค่ะ ตอนนี้ใบหน้าเริ่มเข้าที่และดีขึ้นตามลำดับ ปัญหาเรื่องแก้มย้อยก็ลดลงค่ะ เวลาทาครีมบำรุงจะพยายามทาเป็นแนวยกขึ่น ซึ่งสามารถช่วยได้มากเลย เพื่อน ๆ คนไหนที่มีปัญหาแก้มย้อยหลังผ่าตัดเหมือนกัน สามารถนำเอาวิธีนี้ไปใช้ได้นะคะ ส่วนอาการอื่น ๆ ก็เหมือนเดิม คือยังคงรู้สึกชาและตึง ๆ บริเวณปลายคางอยู่ค่ะ แต่ก็ไม่ได้มากจนรู้สึกรำคาญหรือมีปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวัน
เดือนที่ 5 เข้าสู่เดือนที่ 5 แล้ว แต่อาการชายังไม่หายสนิทค่ะ ยังชาที่บริเวณปลายคางด้านซ้ายอยู่ รู้สึกตึงนิด ๆ เวลาขยับปากหรือยิ้มค่ะ ใบหน้าที่ดูเรียวขึ้น ทำให้ได้คางที่ดูยาวขึ้นด้วย
เดือนที่ 6 หน้าเข้าที่มากขึ้นแล้วค่ะ โครงหน้าชัด หน้าเรียวและเล็กลงมาก ใบหน้าดูเปลี่ยนไปเลยค่ะ แต่อาการชายังมีอยู่ เวลาพูดบางครั้งยังรู้สึกตึง ๆ รั้ง ๆ อยู่บ้าง
เดือนที่ 7 ตอนนี้หน้าดูเล็กลงมากค่ะ หน้าดูเรียวมากขึ้นด้วย ทานอาหารได้ปกติทุกอย่าง แต่ยังคงเหลืออาการชาและตึงรั้งเล็กน้อย
เดือนที่ 8 นี่ก็เดือนที่ 8 แล้ว เวลาผ่านไปไวมากค่ะ เรียกได้ว่าสวยทันวันเกิดปีนี้เลย ใบหน้าดูเรียวขึ้น ทำให้คางดูยาวขึ้นด้วยค่ะ ตอนนี้มีแค่อาการชากับแก้มห้อยนิดหน่อย
เดือนที่ 9 ตอนนี้หน้าเข้าที่มาก ๆ แล้วค่ะ อาการต่าง ๆ ก็ดีขึ้นตามลำดับ ยิ่งกลับไปดูรูปเก่า ๆ ยิ่งเห็นได้อย่างชัดเจน จากหน้ากลมกลายเป็นหน้าเรียวแล้วค่ะ พอใจมาก ๆ
ครบ 1 ปี ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจนหลังจากผ่าตัดมาได้ 1 ปี คือใบหน้าละมุนและหน้าดูหวานมากขึ้นด้วยค่ะ ใบหน้าเข้ารูป กรอบหน้าชัดเจน ไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ จากการผ่าตัดเลยค่ะ ปกติดีทุกอย่าง ใครอยากผ่าตัดแบบเห็นผล แนะนำมาเป็นสาว EU กันนะคะ
ไปศัลยกรรมเกาหลี เลือกเอเจนซี่ที่ดีอย่าง Ministry of Beauty
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/MoBbyoppame/
IG : https://instagram.com/mobbyoppame?igshid=YmMyMTA2M2Y=
LINE : https://lin.ee/ufItg4L
โทร : 083-851-7265
แหล่งที่มาข้อมูล : http://th.eudental.co.kr/index.php/board/view/selfafter/52/1812/cpage/1
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญศัลยกรรมเกาหลีได้ที่ LINE Official: https://lin.ee/ufItg4L
เยี่ยมชมหน้าโปรไฟล์ ผู้เชี่ยวชาญที่ปรึกษาศัลยกรรมเกาหลีได้ที่นี่: https://www.facebook.com/MoBbyoppame/
Comments